ส่งเสริมปลูกต้นไม้ป่าชุมชน

ป่าชุมชนกับชาติพันธุ์บนพื้นที่สูงวิถีชีวิตที่พึ่งพาธรรมชาติ

“ระบบนิเวศของลุ่มน้ำนั้นมีความสัมพันธ์และส่งผลกระทบต่อกัน ดังนั้นพื้นที่ลุ่มน้ำจึงเป็นพื้นที่ ที่มีความสำคัญต่อการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพราะในพื้นที่ลุ่มน้ำมีทรัพยากรธรรมชาติ เช่น ดิน น้ำ อากาศ ป่าไม้และสิ่งมีชีวิตทั้งพืชและสัตว์อาศัยอยู่ด้วยกัน”

ตลอดทุกๆปีตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายนถึงเดือนกันยายนองค์กรได้มีการส่งเสริมกล้าไม้ตามชุมชนต่างๆให้เกษตรกรได้ปลูกต้นไม้ในแปลงป่าชุมชนเพื่อให้เกษตรกรจะได้รู้จักการรักษาฟื้นฟูอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ชุมชนที่อาศัยอยู่ ในแต่ละปีนั้นเกษตรกรได้ปลูกต้นไม้ต่างๆในแปลงป่าชุมชนในจำนวนที่หลากหลายสายพัยพันธุ์ ทั้งนี้การปลูกต้นไม้ในแปลงป่าชุมชนมีความสำคัญต่อเกษตรกรด้วยเช่นกันเพราะเป็นการทำให้ป่าชุมชนนั้นเกิดความอุดมสมบูรณ์ เกิดความหลากหลายของพืชพันธ์ุ นอกจากนี้ป่าชุมชนยังเป็นป่าที่ประชาชนเข้าไปใช้สอยตามวิถีชีวิตของคนทุกคนในชุมชนนั้น ทั้งเรื่องการทำมาหากิน ประเพณีความเชื่อ อำนาจและกฎระเบียบในชุมชน ป่าชุมชนมีหลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับลักษณะภูมินิเวศและวัฒนธรรมและประเพณีของชุมชนในท้องถิ่นนั้นๆ

การส่งเสริมปลูกป่าชุมชนเพื่อให้เกษตรกรได้มีส่วนร่วมในการ รักษา ฟื้นฟู และอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ พร้อมทั้งสร้างความอุดมสมบูรณ์ให้แก่ระบบนิเวศของชุมชน

ทำไมเราถึงให้ความสำคัญกับป่าชุมชน?

ชุมชนชาติพันธุ์ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่สูงมีวิถีชีวิตที่ผูกพันกับป่ามาอย่างยาวนาน มีภูมิปัญญาท้องถิ่นในการดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติ การสนับสนุนให้ชุมชนชาติพันธุ์มีสิทธิ์ในการบริหารจัดการและใช้ประโยชน์จากป่าชุมชนอย่างยั่งยืนจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด ในการรักษาป่าให้คงอยู่ควบคู่ไปกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชน สำหรับชุมชนชาติพันธุ์บนพื้นที่สูง ป่าชุมชนไม่ใช่แค่แหล่งทรัพยากร แต่คือรากฐานของวิถีชีวิต วัฒนธรรม และความมั่นคงทางอาหาร หลายชุมชนดำรงชีพด้วยการเก็บหาของป่า ใช้สมุนไพรเป็นยารักษาโรค เป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรม มูลนิธิพัฒนาพื้นที่สูงให้ความสำคัญกับ การส่งเสริมและสนับสนุนชุมชนบนพื้นที่สูงในการจัดการป่าชุมชน เพื่อให้ป่าเป็นแหล่งทรัพยากรที่คงอยู่และสร้างความมั่นคงให้กับชุมชนทั้งในด้านสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม โดยผลักดันชุมชนให้มีการ

การจัดการป่าชุมชนอย่างยั่งยืน เพื่อให้ป่าเป็นแหล่งทรัพยากรที่คงอยู่และสร้างความมั่นคงให้กับชุมชนทั้งในด้านสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม

สร้างเครือข่ายความร่วมมือ – ส่งเสริมการทำงานร่วมกันระหว่างชุมชน องค์กรภาครัฐ และเอกชน

อบรมและถ่ายทอดองค์ความรู้ – เสริมความรู้ด้านการจัดการป่า การใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน

การจัดตั้งคณะกรรมการป่าชุมชน – ให้ชาวบ้านมีส่วนร่วมในการกำหนดกฎระเบียบและแผนฟื้นฟูป่า