เป็นกิจกรรมโครงการที่มูลนิธิฯได้ส่งเสริมให้ชุมชนมีพัฒนาเพื่อนำไปสู่ความยั่งยืนในอนาคตโดยพึ่งพาตนเอง
กลุ่มชาติพันธุ์ที่อาศัยอยู่ในบนพื้นที่ลุ่มน้ำส่วนใหญ่เป็นหมู่บ้านบริวารที่ไม่สามารถเข้าถึงการบริการภาครัฐต่างๆเท่าที่ควร ทำให้เสียสิทธิในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆที่มีความจำเป็นต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน ชุมชนมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีพัฒนาแผนชุมชน เป็นกระบวนการที่สร้างความเข้มแข็งและพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในชุมชน เพราะเป็นการรวมพลังของคนในชุมชนทุกภาคส่วนมาร่วมกันคิด ร่วมทำ และ ร่วมรับผิดชอบในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาชุมชนของตนเองให้ดีขึ้น
แกนนำคือผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนคริสตจักรและชุมชนให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้
ป่าชุมชนเป็นพื้นที่ที่คนในชุมชนมีส่วนร่วมในการจัดการและใช้ประโยชน์จากทรัพยากรอย่างยั่งยืน โดยชุมชนสามารถใช้สิทธิร่วมกันในการใช้ทรัพยากรจากป่าได้หากมีการกำหนดขอบเขตและกฎเกณฑ์ที่ชัดเจน การใช้ทรัพยากรควรเป็นไปตามฤดูกาลและความสามารถในการทดแทน เพื่อรักษาสมดุลของธรรมชาติ สัตว์ป่า ความหลากหลายทางชีวภาพ และระบบนิเวศ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการดำรงชีวิตตามวิถีชุมชนดั้งเดิม
การจัดตั้งกลุ่มออมทรัพย์ VSLA (Village Savings and Loan Association)เป็นกลไกที่ชุมชนในพื้นที่ห่างไกลจากธนาคารและสถาบันการเงินสามารถใช้ในการจัดการทางการเงินได้เอง ประกอบด้วยสมาชิกกลุ่มออมทรัพย์ระหว่าง 15-25 คนที่มารวมตัวกันเพื่อทำกิจกรรมออมทรัพย์ โดยเน้นกระบวนการมีส่วนร่วมของสมาชิกในทุกขั้นตอน ซึ่งทำให้การบริหารจัดการเป็นไปอย่างโปร่งใสและมีความเป็นเจ้าของร่วมกัน
การทดลองการทำโรงเรียนเกษตรกรของชุมชนเป็นวิธีการหนึ่งในการส่งเสริมความรู้และทักษะด้านการเกษตรให้กับชุมชน โดยเฉพาะกลุ่มเกษตรกรที่สนใจพัฒนากระบวนการเพาะปลูกและการผลิตทางการเกษตรอย่างยั่งยืน แนวคิดของโรงเรียนเกษตรกร (Farmer Field School) เป็นการเรียนรู้ที่เน้นการมีส่วนร่วม โดยเกษตรกรจะทำการทดลองเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในกระบวนการเพาะปลูก
การทำเรือนเพาะชำในชุมชนเป็นกิจกรรมเป็นการส่งเสริมให้เกษตรกรมีความรู้ความสามารถและได้เรียนรู้เทคนิคการทำ เรือนเพาะชำ โดยสามารถที่จะนำ เทคนิค องค์ความรู้ และประสบการณ์ไปต่อยอดและผลิตกล้าไม้ได้เองเพื่อประกอบอาชีพและสร้างรายได้เสริมสมาชิกในชุมชนร่วมมือกันจัดตั้งและดูแลเรือนเพาะชำ
ส่งเสริมทำงานร่วมกันช่วยเสริมพลังจากทรัพยากรที่มี ทำให้ขยายขอบเขตการทำงานไปสู่กลุ่มเป้าหมายที่กว้างขึ้น และสร้างผลลัพธ์ที่ชัดเจนในวงกว้างความหลากหลายของสมาชิกทั้งด้านความรู้ประสบการณ์และมุมมอง นำไปสู่การคิดค้นแนวทางใหม่ๆ
ทั้งร่างกายและฝ่ายจิตวิญญาณคือความต้องการของมนุษย์ที่ครบด้านเป็นความสัมพันธ์ที่เชื่อมโยงกันอย่างลึกซึ้ง
การขุดแถวระดับในพื้นที่การเกษตรลาดชัน เป็นเทคนิคที่ช่วยรักษาหน้าดิน ลดการพังทลายของดิน และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรน้ำองค์กรจึงเล็งเห็นถึงความสำคัญในการจัดการที่ดินอย่างยั่งยืนและเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่จะส่งเสริม อบรมเกษตรกรชุมชนบนพื้นที่สูงให้มีความรู้สร้างความตระหนักในการใช้ที่ดินบนพื้นที่สูงที่มีความลาดชันโดยการขุดแถวระดับ
องค์กรของเราได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาชุมชนในพื้นที่ห่างไกลความเจริญผ่านกิจกรรมที่มีผลกระทบเชิงบวกหลายด้าน โดยเน้น การทำเกษตรหลังบ้านควบคู่กับการเลี้ยงปศุสัตว์ขนาดเล็ก ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิตของกลุ่มชาติพันธุ์ที่อาศัยอยู่บนพื้นที่สูง
